2. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

อย่าห่วงเรื่องดื่มฟรีจนตะบี้ตะบันดื่มจนคุ้มราคาตั๋วเครื่องบิน หรือคาดหวังว่าสักกรึ๊บสองกรึ๊บจะทำให้คุณหลับยาวตลอดไฟล์ท เพราะแท้ที่จริงแล้วแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายคุณขาดน้ำและอาจยังทำให้คุณเกิดอาการตาค้างและเมาค้างแบบง่ายกว่าปกติ ทั้งนี้เพราะสภาพความกดดันของอากาศในชั้นโดยสารเครื่องบินและการอยู่บนที่สูงที่ไม่ค่อยปกติจะทำให้ร่างกายขาดความสมดุลได้ง่ายเป็นทุนอยู่แล้ว ทางที่ดีคุณควรดื่มน้ำสะอาดแทนมากกว่าและควรจิบน้ำเรื่อยๆ เพื่อให้ร่างกายไม่เกิดภาวะขาดน้ำ

3. แต่งตัวเพื่อความสบายไม่ใช่ไปเดินแฟชั่นโชว์     

การจัดเต็มแบบส้นสูง-กางเกงยีนส์รัดเปรี๊ยะหรือเดรสประหนึ่งออกงานไม่ได้ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายแต่อย่างใด เพราะนอกจากจะลุกนั่งไม่สะดวกแล้ว โอกาสในการหัวคะมำมีสูงมาก พื้นที่ทางเดินในเครื่องบินนั้นแคบและไม่ได้จัดทำมาเพื่อเดินอวดโฉมแต่อย่างใด ควรแต่งตัวให้สบาย เช่น กางเกงผ้าลำลอง เสื้อยืดตัวหลวมและรองเท้าผ้าใบแบบสบายๆ เพราะจะทำให้การนั่งเครื่องบินนานๆ ร่วมสิบชั่วโมง (หรือใกล้เคียง) ของคุณนั้นสบายที่สุด และหากคุณคิดจะถอดรองเท้าออก ขอให้แน่ใจว่ารองเท้าคุณนั้นไม่มีกลิ่นและเท้าคุณก็สะอาดมีถุงเท้าสะอาดๆ เตรียมมาพร้อม คุณไม่อยากดมกลิ่นเท้าเหม็นๆ ของใครตลอดไฟล์ท คนอื่นเขาก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

4. พกหนังสือ แมกกาซีน แทบเล็ตและหูฟังส่วนตัวขึ้นเครื่อง  

สำหรับการเดินทางนานๆ คุณอาจเกิดเบื่อเอนเตอร์เทนเมนท์ต่างๆ ที่จัดไว้บริการบนเครื่องบินก็ได้ เช่น หนังที่มีให้เลือกก็ดูมาหมดแล้ว ซีรี่ย์ที่มีก็ไม่นิยม เกมส์ก็ไม่อยากเล่น ทางที่ดีคุณควรควรพกความบันเทิงส่วนบุคคลติดไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นนิยายเรื่องใหม่ แมกกาซีนเล่มโปรด แทบเล็ตที่อัดแน่นไปด้วยเกมส์ยอดนิยมของคุณ และลืมไม่ได้กับหูฟังตัดเสียงรบกวนที่คุณใช้เองที่บ้าน

5. ขยับแข้ง ขยับขาซะบ้าง

อันนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปจ็อกกิ้งรอบเครื่องแต่หมายถึงให้คุณบริหารกล้ามเนื้อเบาๆ บ้างในช่วงเวลาการเดินทาง เช่น หมุนข้อเท้า บีบนวดเข่า-น่อง-ขา เบาๆ หมุนข้อมือ หมุนไหล่แต่พองาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันอาการกล้ามเนื้อชาหรือตะคริวกินจากการนั่งนานๆ บนเครื่อง

6. อย่าลืมพกผ้า/หน้ากากปิดตา (Eye Mask) และ/หรือที่อุดหู (Earplugs)

แน่นอนว่าการนอนในระหว่างไฟล์ทนั้นไม่สบายและหลับยากกว่าปกติ ไหนจะเสียงกรน เสียงคุยจากเพื่อนร่วมทางและแสงไฟที่แม้จะหรี่ต่ำสุดแต่ก็ไม่ได้มืดสนิทชวนนอนแต่อย่างใด ดังนั้นคุณจึงควรพกอุปกรณ์ตัวช่วยนอนไปด้วย เช่น หน้ากากปิดตาและที่อุดหู หรือถ้าคุณจะพกหมอนรองคอเล็กๆ สำหรับการนอนบนเครื่องบินติดกระเป๋าไปด้วยก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย

7. พกขนมและของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ

อย่าลืมว่าสายการบินไม่ได้มีขนมไว้คอยบริการตลอดเที่ยวบิน อีกทั้งอาหารและขนมส่วนใหญ่ที่บริการบนเครื่องก็ไม่ได้รสชาติดีเลิศเชลล์ชวนชิม การพกของกินติดตัวเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะอย่างน้อยหากคุณเกิดหิวยามวิกาลที่ไม่มีอาหารบริการ คุณก็ยังมีเสบียงส่วนตัวช่วยแก้ขัดไปได้

8. ป้องกันอาการป่วยบนเครื่อง

หลายคนมักมีปัญหากับการติดเชื้อโรคจากบนเครื่องบิน เช่น หวัด ไข้ ไอ จาม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คนร่วม 100 ชีวิตต้องมาอยู่ในพื้นที่จำกัดบนเครื่อง หายใจร่วมกัน มันก็เป็นเหตุที่เลี่ยงไม่ได้ นอกจากนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ถาดวางของในที่นั่งของคุณ อ่างล้างมือในห้องน้ำ ฯลฯ มันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคดีๆ นี่เอง แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เรามีวิธีลดความเสี่ยงง่ายๆ มาแนะนำ นั่นก็คือการพกทิชชู่เปียกป้องกันเชื้อโรค (Anti-Bacteria Wet Wipe)               หรือเจลฆ่าเชื้อโรคไซส์พกพาที่เราสามารถนำมาเช็ดถาดและอ่างล้างมือ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมกันอื่นๆ และเช็ดมือของเราเอง อันนี้ไม่ได้พารานอยด์แต่มันเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ โดยเฉพาะในกรณีคุณที่มักป่วยหลังจากการเดินทางด้วยเครื่องบินอยู่บ่อยๆ

9. อย่าลืมเตรียมแปรงสีฟัน ยาสีฟันและอุปกรณ์ล้างหน้าเล็กๆ ติดตัว

การแปรงฟัน ล้างหน้าเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้คุณสดชื่นขึ้นได้ง่ายๆ ฉะนั้นอย่าลืมพกอุปกรณ์เหล่านี้ติดกระเป๋าขึ้นเครื่องไปด้วย หรือถ้าขี้เกียจ แค่น้ำยาบ้วนปากไซส์พกพาและผ้าขนหนูเล็กๆ ที่คุณสามารถนำมาชุบน้ำอุ่นเช็ดหน้าเช็ดตัวได้บนเครื่อง เท่านี้ก็สามารถช่วยคืนความสดชื่นสำหรับการเดินทางในเที่ยวบินไกลๆ ได้ดีทีเดียว

10. ใช้ประโยชน์จากแต้มสะสม

หากคุณมีแต้มสะสมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแต้มสะสมจากบัตรสมาชิกสายการบิน แต้มสะสมจากบัตรเครดิตและบัตรอื่นๆ ที่คุณสามารถนำมาใช้ในการขออัพเกรดที่นั่งหรือซื้อบริการเอนเตอร์เทนเมนท์เพิ่มบนเครื่องบินได้ ขอให้นำมาใช้เถอะ การเดินทางบนเครื่องบินในชั้นประหยัดนานๆ มันมิใช่ความเริงรมย์แต่อย่างใด หากคุณสามารถทำให้ชั่วโมงบินที่แสนยาวนานนั้นมีความบันเทิงหรือมีความสบายขึ้นไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง (ที่คุณไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเป็นจำนวนมาก) ขอให้ทำเพราะมันคุ้มค่าจริงๆ